014 ภาพถ่ายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ปี 2504 กรอบพลาสติกเก่าเดิม : antig50
antig50
หน้าร้าน ©antig50 : ต้องการพระเครื่ององค์ไหน จับภาพหน้าจอคอม หน้าจอมือถือ หรือส่งลิ้งค์มาทาง line ครับ เบอร์โทรผม 0932480159 เพิ่มเพื่อนทาง line ได้เลย



ชื่อสินค้า : 014 ภาพถ่ายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ปี 2504 กรอบพลาสติกเก่าเดิม
ประเภท : เปิดให้บูชา
: รายละเอียด :

รูปถ่ายอัดกระจกหลวงพ่อเดิม เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว พ.ศ.๒๕๐๔ เดิมๆ จากวัดสุดคลาสสิค.
แท้จริงแล้ว เป็นภาพที่ตกค้างจากทางวัด เมื่อประมาณ ปี 2493 เนื่องจากภาพนี้เป็นภาพที่เหมือนกับ ภาพปี 2493 ครับ

เหตุที่หลวงพ่อได้ชื่อว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว” เพราะ...

•••••ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ สำเร็จฌานสมาบัติชั้นสูง ที่เรียกว่า เจโตปริยญาน และ อนาคตญาน คือท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้เสมอเช่นครั้งหนึ่ง ท่านนั่งคุยกับบรรดาลูกศิษย์และผู้ใกล้ชิดอยู่ ท่านก็พูดออกมาว่า “เอ๊ะ_ต้นโพธิ์ใหญ่วัดหนองสีนวลล้มเสียแล้ว” คนที่นั่งอยู่ในที่นั้นก็ไม่ทราบว่าที่ท่านพูดนั้นหมายถึงอะไร จนกระทั่งกรรมการวัดหนองสีนวลได้มาที่วัดหนองโพ และได้ขึ้นไปกราบเรียนให้ท่านทราบว่า หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ได้มรณภาพแล้ว ทุกคนถึงได้ทราบว่าหลวงพ่อเดิมท่านรู้ล่วงหน้าก่อนแล้ว

•••••อีกทั้งยังเป็นพระนักพัฒนา_หลวงพ่อเดิมท่านเป็นพระนักพัฒนา และนักก่อสร้าง ท่านจะไม่จอมเป็นผู้อยู่นิ่งเฉย ท่านชอบงานก่อสร้างหรือบูรณะวัดวาอารามทั่วไป วัดไหนมานิมนต์ท่านไปเป็นประธานในการก่อสร้างวัด ท่านจะไม่ขัดข้องเลย ก่อนที่ท่านจะเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองโพนั้น สภาพของวัดหนองโพอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก เมื่อท่านเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ท่านก็เริ่มทำการก่อสร้างปรับปรุงวัดหนองโพเป็นการใหญ่ เช่น สร้างกุฏิ สร้างศาลาการเปรียญ และสร้างพระอุโบสถแล้วเสร็จใน พ.ศ.๒๔๕๘ ครั้นต่อมาท่านก็ยังเห็นความสำคัญของการศึกษา ท่านจึงได้ก่อสร้างโรงเรียนขึ้นที่วัดหนองโพ แล้วเสร็จเมื่อปี ๒๔๘๒ ซึ่งทางราชการได้ตั้งชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลนิวาสานุสรณ์”นอกจากวัดหนองโพแล้ว ท่านยังได้ก่อสร้างวัด หรือปฏิสังขรณ์วัดต่างๆเป็นจำนวนมากมาย ที่พอจะนับได้ มีประมาณเกือบ ๓๐ วัด ซึ่งนับว่าเป็นการยากลำบากอย่างยิ่งในสมัยนั้น

•••••ประวัติ และความเป็นมา
พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) นามเดิมชื่อ เดิม นามสกุล ภู่มณี บิดาชื่อ นายเนียม ภู่มณี มารดาชื่อ นางภู่ ภู่มณี ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๐๓ ตรงกับวันพุธ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีวอก จุลศักราช ๑๒๒๒ ที่บ้านหนองโพ ตำบลหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

•••••อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๒๓ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง ขณะมีอายุได้ ๒๐ ปี โดยมี
หลวงพ่อแก้ว วัดอินทาราม (วัดใน) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูพยุหานุศาสก์ (หลวงพ่อเงิน) วัดพระปรางค์เหลือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร”

•••••การศึกษา หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อเดิมได้กลับมาจำพรรษาที่วัดหนองโพ อันเป็นวัดบ้านเกิดเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยกับ หลวงตาชม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองโพในขณะนั้น แต่เนื่องจากขณะที่ยังเยาว์วัยอยู่หลวงพ่อไม่เคยได้รับการศึกษาเล่าเรียนมาก่อนเลย ท่านจึงต้องใช้ความอุตสาหพยายามเป็นอย่างมาก จนสามารถอ่านออกเขียนได้ และสามารถท่องคัมภีร์ พระวินัยได้ ท่านอยู่ศึกษากับหลวงตาชมเป็นเวลานานถึง ๗ ปี และในขณะเดียวกันท่านศึกษาวิชาคาถาอาคม และปริยัติธรรม กับ อาจารย์พัน ชูพันธ์ ซึ่งเมื่ออาจารย์พันเสียชีวิตแล้ว ท่านก็ได้เดินทางไปเรียนปริยัติธรรมกับหลวงพ่อมี วัดบ้านบน ตำบลม่วงหัก อำเภอพยุหะคีรี เป็นเวลา ๒ ปี แล้วจึงย้ายไปเรียนปริยัติธรรมกับอาจารย์แย้ม ซึ่งเป็นฆราวาสที่วัดสระทะเล จนจบระปริยัติธรรมชั้นสูง และท่านยังได้ไปเรียนวิชาเทศน์สั่งสอน และเทศน์ทำนองกับพระอาจารย์นุ่ม วัดเขาทอง
ต่อมาหลวงพ่อเดิมท่านได้หันมาศึกษาทางวิปัสสนากรรมฐาน คาถาอาคม การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง กับหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง และหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ขณะเดียวกันก็ยังได้ศึกษาการทำมีดหมอ รวมแล้วท่านใช้เวลาในการศึกษาวิชาการด้านต่างๆเป็นเวลานานถึง ๑๒ ปี
ในระยะแรกของการอุปสมบท หลวงพ่อเดิมท่านปฏิบัติตนเป็นพระนักเทศน์ ทั้งเทศน์สอนและเทศน์ทำนองเสนาะอยู่หลายปี แต่ต่อมาท่านก็เลิกรับนิมนต์ไปเทศน์ หากขัดไม่ได้ ท่านก็จะให้พระรูปอื่นไปแทนท่าน โดยท่านได้ให้เหตุผลที่ไม่รับนิมนต์ไปเทศน์ว่า “มัวไปสอนคนอื่นมามากแล้ว ไม่เคยได้สอนตัวเองสักที ต้องหันมาสอนตัวเองบ้าง” หนังสือใบลานที่ท่านชอบอ่านอยู่เป็นประจำในยามว่างตั้งแต่หนุ่มจนชราภาพเป็น “คัมภีร์ปริศนาธรรม” สำนวนเก่า มีทั้งปุจฉา วิสัชนาว่าด้วยคำสอนของพระชินสีห์ มี๖๒ลาน และจากที่ท่านเลิกรับกิจนิมนต์ทางเทศน์ท่านก็ได้มานะพยายามศึกษาวิชาวิปัสสนากรรมฐาน และวิชาคาถาอาคม จนมีความรู้ความสามารถเป็นเลิศองค์หนึ่งเลยทีเดียว

•••••หลวงพ่อได้รับสมณศักดิ์
หลวงพ่อเดิม เมื่อเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองโพ ราวปี พ.ศ.๒๔๓๕ ท่านก็ได้เป็นเจ้าอธิการเดิม ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองโพ ครั้นวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๔๕๗ ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่๖) ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร “พระครูนิวาสธรรมขันธ์) ซึ่งท่านก็มิได้เดินทางไปรับพัดยศด้วยตัวของท่านเอง หากแต่บรรดาลูกศิษย์ของท่านไปรับกันมาถวายท่านเอง โดยทางขบวนรถไฟ และจากสถานีรถไฟบ้านหนองโพ ก็ยังจัดให้มีขบวนแห่แหนพัดยศอย่างยิ่งใหญ่ไปจนถึงวัดหนองโพ
อำเภอตาคลีในขณะนั้นก็ยังมีฐานะเป็นเพียง กิ่งตาคลี อำเภอพยุหะคีรี วัดหนองโพก็ยังอยู่ในเขตการปกครองของคณะสงฆ์อำเภอพยุหะคีรี เมื่อเจ้าคณะแขวงพยุหะคีรี (เจ้าคณะอำเภอ) ในขณะนั้นได้มรณภาพลง หลวงพ่อเดิมท่านจึงได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะแขวงพยุหะคีรีอีกตำแหน่งหนึ่ง ต่อมาปี ๒๔๖๒ ท่านก็ได้รับตราตั้งให้เป็นเจ้าคณะแขวงพยุหะคีรี และได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ แม้กระนั้นท่านก็ยังวางเฉยต่อตำแหน่งเหล่านั้น ทั้งยังชอบให้ผู้อื่นเรียกท่านว่า “พระครูเดิม” หรือ “หลวงพ่อเดิม” เช่นเคย

•••••หลวงพ่อชอบสัตว์เลี้ยง หลวงพ่อเดิมท่านชอบเลี้ยงสัตว์พาหนะจำพวก ช้าง ม้า วัว เป็นต้น เวลาที่ท่านเดินทางไกล ท่านจะไปโดยใช้วัวเทียมเกวียน หรือช้าง แต่สัตว์เลี้ยงที่หลวงพ่อเดิมท่านชอบและโปรดปรานมากเป็นพิเศษเห็นจะเป็นช้างมากกว่าสัตว์อย่างอื่น หลวงพ่อเดิมท่านมีช้างอยู่หลายเชือก ท่านดูลักษณะช้างเป็น ว่าดีหรือไม่ดี เลี้ยงไว้แล้วจะให้คุณหรือให้โทษ ท่านเคยไปโพนช้างป่ากับพวกควาญช้าง หลวงพ่อเดิมท่านชอบนั่งช้างไปงานบวช ไปงานสร้างวัด ไปต่างบ้านต่างตำบลท่านจะไปด้วยช้างเป็นส่วนมาก

ชอบเล่นแร่แปรธาตุ มีอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลวงพ่อเดิมท่านได้หันมาสนใจวิชาการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่อาจารย์ยุคนั้นนิยมกันมาก กรรมวิธีการเล่นแร่แปรธาตุคือจะต้องรู้จักว่านยาชนิดต่างๆ สำหรับทำเป็นน้ำยาขัดใส่โลหะ โลหะชนิดต่างๆ เตาหลอมโลหะ และที่สำคัญคือ สมาธิและพระเวทย์อันศักดิ์สิทธิ์ของผู้ศึกษาวิชา หลวงพ่อเดิมท่านสร้างเตาหลอมขึ้นมาแล้วนำตะกั่วมาใส่เบ้าหลอมให้ละลาย แล้วขัดด้วยน้ำยา สูบไฟจนตะกั่วกลายเป็น เงิน นาก หรือทองคำ มีอยู่วันหนึ่ง ท่านแปรตะกั่วให้กลายเป็นทองคำ มีน้ำหนักประมาณหนึ่งบาท ท่านทดลองทำจนมั่นใจแล้วจึงนำมาให้ลูกศิษย์ของท่านดู ลูกศิษย์ของท่านก็แสดงอาการอยากที่จะได้เป็นเจ้าของ แต่หลวงพ่อเดิมท่านกลับนำมาโยนลงสระน้ำ พร้อมกับทุบทำลายเตาหลอมและเครื่องมือในการเล่นแร่แปรธาตุ แล้วท่านก็นำไปทิ้งลงสระน้ำเช่นกัน

•••••ปัจฉิมวัยของหลวงพ่อ หลวงพ่อเดิมท่านเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ถึงแม้ท่านจะชราภาพมากเพียงใด ท่านก็ยังปฏิบัติกิจของสงฆ์อยู่มิได้ขาด ยังชอบที่จะไปเป็นประธานก่อสร้างวัดหรือพัฒนาวัดต่างๆอยู่เช่นเดิม แต่ในระยะหลังท่านต้องเดินทางโดยเกวียนหรือช้างเป็นส่วนใหญ่ กิจการภายในวัดหนองโพ ท่านก็มอบให้พระสมุห์ชุ่ม ขันธสโร เป็นผู้ดูแลวัดแทนท่าน ครั้งเมื่อพระสมุห์ชุ่ม ได้มรณภาพลงในปี ๒๔๙๑ หลวงพ่อเดิมขณะนั้นก็มีอายุเกือบจะเข้า ๙๐ ปีอยู่แล้ว ทางคณะสงฆ์จึงยากท่านให้ขึ้นเป็นกิตติมศักดิ์ แล้วแต่งตั้งให้หลวงพ่อน้อย (พระครูนิพนธ์ธรรมคุต) ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน
ในปี ๒๔๙๔ หลวงพ่อเดิมกลับจากการเป็นประธานสร้างพระอุโบสถ วัดอินทาราม (วัดใน) อำเภอพยุหะคีรี เพื่อสนองคุณพระอุปัชฌาย์ของท่าน และเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๔ หลวงพ่อเดิมท่านก็ล้มป่วยลงด้วยโรคลมปัจจุบัน ประกอบกับโรคชรา ต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ลูกศิษย์ของท่านก็พยายามรักษากันอย่างเต็มที่ ทั้งยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ อาการของหลวงพ่อก็มีแต่ทรงกับทรุดเท่านั้น ลูกศิษย์ไม่ว่าไกลหรือใกล้ต่างหลั่งไหลกันมาเยี่ยมหลวงพ่อกันด้วยความเป็นห่วง

•••••มรณภาพ ครั้นถึงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๙๔ อาการป่วยของหลวงพ่อทรุดหนักลงมาก พร้อมกับได้เกิดเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น กล่าวคือ บรรดาช้างของหลวงพ่อเดิม ที่กำลังทำงานอยู่ในป่าไม่ยอมทำงาน แม้จะถูกควาญช้างบังคับอย่างไรก็ไม่ยอมทำตาม ทุกเชือกพร้อมใจกันหันหน้ากลับวัดหนองโพเพียงท่าเดียว เมื่อหมดหนทางที่จะบังคับควาญช้างจึงต้องนำช้างทุกเชือกกลับวัดหนองโพ เมื่อมาถึงวัดแล้วมันก็พากันเดินวนเวียนอยู่บริเวณกุฏิของหลวงพ่อเดิม มีอาการหงอยเหงาไม่ยอมกินหญ้ากินน้ำ คล้ายกับว่าพวกมันรู้ว่าหลวงพ่อผู้เลี้ยงดูพวกมันด้วยความเมตตาปรานี กำลังจะจากมันไปอย่างไม่มีวันกลับในไม่ช้านี้
เวลา ๐๗.๐๐ น. หลวงพ่อเดิมท่านลืมตาขึ้นมา แล้วถามบรรดาลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดว่า น้ำในสระวัดทั้ง ๒ สระ จะมีพอใช้กันไหม ลูกศิษย์ก็ตอบท่านไปว่า หากไม่มีฝนตกในระยะเวลาอันใกล้นี้ ถ้าจะลำบากด้วยไม่มีน้ำกินน้ำใช้กันแน่ เมื่อหลวงพ่อท่านได้ฟังคำของลูกศิษย์เช่นนั้น ท่านก็พนมมือไว้บนอก หลับตานิ่งสนิท ทันใดนั้นท้องฟ้าที่สว่างอยู่ ไม่มีเค้าเลยว่าจะมีฝนตก ก็มืดครึ้มลงเป็นลำดับ ปรากฏว่ามีเมฆฝนตั้งเค้ามา แล้วตกลงอย่างหนักอยู่นานประมาณเกือบ ๓๐ นาที ปรากฎว่าน้ำไหลลงสู่สระวัดได้ถึงครึ่งสระทั้งสองสระ และเมื่อฝนขาดเม็ดลง ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของหลวงพ่อเดิมท่านก็หยุดไปพร้อมกับสายฝน เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
เมื่อบรรดาศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงพ่อได้ทราบว่าหลวงพ่อได้ละสังขารเป็นที่แน่แล้ว จึงได้บอกต่อกันออกมาให้ผู้ที่อยู่ข้างนอกทราบ เสียงตีกลองของวัดดังกระหึ่มไปทั่วบ้านหนองโพ ชาวบ้านทุกคนต่างก็รู้ว่าเป็นการตีกลองบอกเหตุแจ้งการมรณภาพของหลวงพ่อเดิม ทุกคนต่างพร้อมใจกันมุ่งหน้ามาสู่วัดหนองโพด้วยความเศร้าโศกเสียใจ และอาลัยต่อการจากไปของหลวงพ่อ บรรดาช้างที่เฝ้าวนเวียนอยู่รอบกุฏิของหลวงพ่อต่างส่งเสียงร้องดังกึกก้อง ชูงวงเดินวนเวียนสลับกับการร้องแสดงความอาลัยหลวงพ่อ
เช้าวันรุ่งขึ้น ทางวัดได้จัดให้มีการรดน้ำศพหลวงพ่อ ผู้คนที่ทราบข่าวต่างหลั่งไหลมาทั่วทุกสารทิศ ขณะที่กำลังดำเนินการรดน้ำศพหลวงพ่ออยู่นั้น ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้เข้าไปใต้ถุนศาลารองน้ำที่ไหลผ่านจากร่างของหลวงพ่อลงมา บ้างก็รองอาบ บ้างก็ดื่มกิน บ้างก็นำกลับไปบ้าน เพราะทุกคนเชื่อมั่นว่าเป็นน้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนข้างบนก็เกิดการแย่งฉีกจีวรของหลวงพ่อกันให้สับสนไปหมด โดยไม่สนใจฟังคำห้ามปรามของคณะกรรมการวัด เพราะทุกคนต่างก็อยากได้ไปเก็บไว้เป็นศิริมลคลสำหรับตัวเอง
ในวันที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเดิม ทางวัดได้จัดให้มีงานมหรสพหลายชนิด ประชาชนและบรรดาศิษย์ของหลวงพ่อได้มาร่วมงานกันจนแน่นขนัดบริเวณวัดหนองโพ เมื่อได้ฤกษ์พระราชทานเพลิงแล้ว ขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้ร่างของหลวงพ่ออยู่ได้มีฝนตกลงมาอย่างโปรยปราย ครั้นเมื่อไฟมอดแล้ว คณะกรรมการได้เข้าไปดำเนินการเก็บอัฐิของหลวงพ่อ ซึ่งขณะนั้น ยังไม่ทันที่จะหายร้อนเลย เมื่อคณะกรรมการได้เก็บอัฐิของหลวงพ่อเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประชาชนที่รอคอยอยู่ต่างเฮโลเข้าไปที่เมรุต่างแย่งชิงกันเก็บอัฐิ เถ้าอังคารของหลวงพ่อที่เหลืออยู่จนเกิดการชุลมุนวุ่นวายไปหมด จนกระทั่งไม่มีอะไรเหลืออยู่ในเชิงตะกอนเลย

••••• จากทั้งหมดโดยย่อ_หลวงพ่อเดิม พุทธสโร เกิดเมื่อวันพุธ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๐๓ อุปสมบท ณ. พัทธสีมาวัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๒๓ เมื่อมีอายุได้ ๒๐ ปี มรณภาพเมื่อ วันอังคาร แรม ๒ ค่ำ เดือน ๖ ตรงกับวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๙๔ สิริรวมอายุได้ ๙๒ ปี พรรษาที่ ๗๐

กรุณาแจ้งด้วยครับว่าท่านพบพระองค์นี้ ที่ ร้าน antig 50 รายการที่ 014

ดูรายการพระเครื่องอื่นๆ คลิ๊กที่ คำว่าหน้าร้าน ด้านบน

ราคา : 12000 บาท
ข้อมูลการติดต่อ : อุดร เหลืองวิชชเจริญ
093-2480159 ang7kong@gmail.com
จำนวนผู้เปิดชม : 3290 ครั้ง
โพสเมื่อ : 2017-09-09 21:06:39
ปรับปรุงล่าสุด : 2017-09-09 21:07:58
Share ข้อมูล :
สอบถามเกี่ยวกับสินค้านี้
ชื่อผู้โพส
E-mail
โทรศัพท์
ข้อความ
Code ยืนยันการโพสโค้ดยืนยันการโพส
;
ชื่อร้าน : antig50
โดย : อุดร เหลืองวิชชเจริญ
ที่อยู่ติดต่อ : 491 หมู่ที่ 7 ต.สมอเเข อ.เมือง จ. พิษณุโลก 65000
หมายเลขโทรศัพท์ : 093-2480159
E-Mail ติดต่อ : ang7kong@gmail.com
URL ของร้าน : http://pra.yodthongthai.com/antig50/
 ธนาคารกสิกรไทย :   สาขา ถนนสายเอเซีย  
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์/สะสมทรัพย์
ชื่อบัญชี : อุดร เหลืองวิชชเจริญ  
หมายเลขบัญชี : 4032253429